ปราสาทศีขรภูมิ ตั้งอยู่ที่ตำบลระแงง ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางหมายเลข 226 โดยอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอไปอีก 1 กิโลเมตร
ปราสาทศรีขรภูมิประกอบด้วยปรางค์อิฐ 5 องค์
องค์กลางเป็นปรางค์ประธาน มีปรางค์บริวารล้อมรอบอยู่ที่มุมทั้งสี่บนฐานเดียวกัน
ก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
มีบันไดทางขึ้นและประตูทางเข้าเพียงด้านเดียวคือด้านทิศตะวันออกปรางค์ทั้งห้าองค์มีลักษณะเหมือนกัน
คือ องค์ปรางค์ไม่มีมุข มีชิ้นส่วนประดับทำจากหินทรายสลักเป็นลวดลายต่างๆ
ทั้งส่วนที่เป็นทับหลังและเสาประดับกรอบประตู เสาติดผนัง และกลีบขนุนปรางค์
ส่วนหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น
องค์ปรางค์ประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฏราช (พระอิศวรกำลังฟ้อนรำ) บนแท่น
มีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเนศ
พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง
เสาประตูสลักเป็นลวดลายเทพธิดาลายก้ามปูและรูปทวารบาล
ส่วนปรางค์บริวารพบทับหลัง 2
ชิ้น ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เป็นภาพกฤษณาวตาร
ทั้งสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็นภาพกฤษณะฆ่าช้างและคชสีห์
ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นภาพพระกฤษณะฆ่าคชสีห์จากลวดลายที่เสาและทับหลังขององค์ปรางค์
มีลักษณะปนกันระหว่างรูปแบบศิลปะขอมแบบบาปวน (พ.ศ. 1550-1650) และแบบนครวัด (พ.ศ. 1650-1700) จึงอาจกล่าวได้วา
ปราสาทแห่งนี้คงสร้างขึ้นในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 17
หรือต้นสมัยนครวัด โดยสร้างขึ้นเนื่องในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย และคงถูกดัดแปลงให้เป็นวัดในพุทธศาสนาตามที่มีหลักฐานการบูรณะปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่
22 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย
เวลาเปิด-ปิด: ปราสาทศีขรภูมิเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย คนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท
รูปภาพ ปราสาทศีขรภูมิ
ชิ้นส่วนปราสาทศีขรภูมิ ชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนที่อยู่บนปราสาทมาก่อน หลังจากนั้นเกิดการชำรุดหักพังหล่นลงมาจากปราสาท จึงได้มีการนำมารวบรวมตั้งไว้บริเวณด้านหน้าของทางเข้าใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านขวามือ จากนั้นจึงได้สังเกตเห็นบริเวณรอบปราสาทแห่งนี้มีต้นโพธิ์อยู่ 3 ต้น อยู่ที่มุม 3 มุมรอบบริเวณองค์ปราสาท ขาดเพียงมุมด้านหลังขวามือที่ไม่มีต้นโพธิ์ ต้นโพธิ์ต้นหนึ่งด้านซ้ายมือด้านหน้าทางเข้ามีข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ให้อ่าน
ปราสาทศีขรภูมิ
เป็นภาพด้านหน้าของปราสาท ในขณะที่เดินทางไปถึงปราสาทแห่งนี้ตามแผนการเดินทางของทริปแห่เทียนอุบลราชธานี
เราเลือกปราสาทศีขรภูมิเป็นจุดแวะบนทางผ่าน เพียงแต่เราเข้าไปถึงเวลา 16.27 น. ซึ่งปราสาทแห่งนี้เปิดให้เข้าชมได้ถึงเวลา 16.30 น. ค่อนข้างเฉียดฉิวทีเดียว แต่เวลาช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวน้อยสะดวกในการเก็บภาพเป็นอย่างยิ่งปราสาทที่ยิ่งใหญ่เบื้องหน้าที่เราเห็น
ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก ปรางค์องค์กลางเป็นประธาน มี 4
องค์อยู่ที่มุมทั้งสี่ ซึ่งส่วนใหญ่ชำรุดลงไปมากแล้ว
บางส่วนที่เห็นบนปราสาทเป็นการบูรณะของกรมศิลปากร ปรางค์ทั้ง 5 องค์สร้างบนฐานเดียวกัน กว้าง 25 เมตร ยาว 26
เมตร สูง 1.5 เมตร
บริเวณรอบปราสาทศีขรภูมิ
นับว่าปราสาทแห่งนี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง รอบองค์ปราสาทเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่มากทีเดียว
ทับหลังปราสาทศีขรภูมิ องค์ปรางค์ประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฏราช
(พระอิศวรกำลังฟ้อนรำ) บนแท่น มีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข
มีรูปพระคเนศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง
เสาประตูสลักเป็นลวดลายเทพธิดาลายก้ามปูและรูปทวารบาล
ภายในปรางค์ประธาน มีช่องประตูเล็กๆ เดินเข้าไปภายในได้
แต่ภายในนั้นค่อนข้างแคบและมืด มีพระพุทธรูปบูชาขนาดเล็กไว้ให้กราบไหว้บูชา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.touronthai.com