การใช้อีเมล (E-mail)

การใช้อีเมล (E-mail)
            จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่นิยมเรียกว่า อีเมล (E-mail) ก็คือ จดหมายหรือข้อความที่ส่งถึงกันผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์  โดยการนำส่งจดหมายเปลี่ยนจากบุรุษไปรษณีย์มาเป็นโปรแกรมเปลี่ยนจากการใช้เส้นทางมาเป็นสายสื่อสารที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย
ประเภทของ  E-mail
1.             POP
จะมีการทำงานในแบบที่เรียกว่า Offline Model  กล่าวคือเวลาทำงานเรื่องไคลเอนต์จะเชื่อมต่อกับ Mail Server  จากนั้นจะดาวน์โหลดและจะลบอีเมลออกจากเซิร์ฟเวอร์  หรือดาวน์โหลดเพียงอย่างเดียวแล้วทิ้งอีเมลไว้บนเซิร์ฟเวอร์ภายหลังจากที่อีเมลถูกดาวน์โหลดมาที่เครื่องไคลเอนต์เรียบร้อยแล้วไคลเอนต์จะตัดการเชื่อมต่อออกจากเซิร์ฟเวอร์หลังจากนั้นอีเมลจะถูกส่งไปที่ไคลเอนต์ทั้งหมด  ข้อได้เปรียบจากการทำงานแบบนี้ก็คือ ไคลเอนต์แต่ละเครื่องใช้เวลาในการเชื่อมต่อกับเครื่อง Mail Server น้อยมาก อีกทั้งยังต้องการเนื้อที่เก็บอีเมลลงบนเซิร์ฟเวอร์น้อยด้วยแต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถอ่านอีเมลจากไคลเอนต์ของเครื่องอื่นได้ หากตั้งค่าให้ลบอีเมลบนเซิร์ฟเวอร์  หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้นหรือไม่สามารถบอกได้ว่าเมลฉบับไหนเคยอ่านไปแล้วบ้าง

2.            IMAP
จะมีการทำงานในรูปแบบที่เรียกว่าระบบออนไลน์ผสานกับระบบออฟไลน์กล่วคือ  การรับส่งอีเมลทั้งหมดจะถูกจัดการที่เซิร์ฟเวอร์เพียงอย่างเดียว ไคลเอนต์มีหน้าที่เพียงแค่อ่านอีเมลหรือคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น  ข้อดีก็คือสามารถอ่านอีเมลจากที่ใดก็ได้  เนื่องจากอีเมลจะถูกเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์เสมอ และจะมีสถานะบอกด้วยว่าอีเมลฉบับใดมาใหม่  ฉบับใดมีการอ่านหรือตอบกลับไปแล้ว  แต่ข้อเสียก็คือ เซิร์ฟเวอร์จะต้องเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง และในระหว่างการอ่านเครื่องไคลเอนต์จะต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลา ดังนั้นจะทำงานได้ช้ากว่าแบบ POP
3.Wab Base Mail
เช่น อีเมลของ hotmail.comchaiyo.com  ซึ้งหากต้องการใช้อีเมลเหล่านี้จะต้องใช้งานโดยผ่านทางเว็บบราวเซอร์  เช่น Internet Explorer, Firefox ก็สามารถเข้าเช็คอีเมลหรือเขียนอีเมลเข้าใช้ได้อย่างสะดวก ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เสมอไป เพราะโปรแกรมอีเมลดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีแบบ Web-based Application ที่ใช้โปรแกรมเว็บบราวเซอร์เป็นเครื่องมือในการเปิดโปรแกรมใช้งาน จึงทำให้โปรแกรมอีเมลสามารถทำงานได้เหมือนกับการเข้าไปดูเว็บไซต์ทั่วไป

รูปแบบโครงสร้างของ E-mail Address
            อีเมแอดเดรส(E-mail Address)

                 คือ ที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตหรือที่อยู่ของตู้จดหมายของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
1.  ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้ (User Name)
2.  เครื่องหมาย @  (at sign) อ่านว่า  แอท”
3.  ที่อยู่ของอินเตอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ใช้สมัครเป็นสมาชิก(Domain Name)
4.  รหัสบอกประเภทขององค์กรและประเทศ
ชื่อโดเมน
Domain Name ประกอบด้วย 3 ส่วน  แต่ละส่วนเรียกว่า Sub Domains ซึ่งมีความหมายดังนี้
ส่วนที่  1  บอกถึงชนิดของเซิร์ฟเวอร์ ว่าเป็น WWW Server หรือเป็น FTP Server
ส่วนที่  2  เป็นชื่อของ Domain ซึ่งมักจะตั้งตามชื่อของบริษัทหรือองค์กรที่เป็นเจ้าของ
ส่วนที่  3  เป็นส่วนที่ระบุถึงชนิดและสัญชาติของ Domain นั้น ๆ เช่น นามสกุลของDomain Name
ตัวอย่างคำย่อของประเทศ
ความปลอดภัยของการส่งอีเมล

1. เก็บอีเมลเป็นความลับ

            อีเมลถือว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญหากไม่มีความจำเป็นไม่ควรให้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านส่วนตัวกับผู้อื่น เพราะอาจถูกขโมยข้อมูลหรือนำอีเมลไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม  กรณีที่มีการใช้อีเมลสำหรับการติดต่อหลาย ๆ ประเภท  เช่นติดต่อเรื่องงาน   ติดต่อเรื่องส่วนตัวควรทำการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน อาจจะทำการสร้างผู้ที่ติดต่อและทำการจัดระเบียบแยกเป็นหมวกหมู่ หรือสร้างอีเมลแยกเพื่อใช้เฉพาะสำหรับที่ทำงาน หรือใช้เฉพาะเรื่องส่วนตัว เป็นต้น จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นจากความเสี่ยงที่อาจเกิดได้กับข้อมูลในอีเมล
2. ระมัดระวัง อีเมลน่าสงสัย
ไม่ควรเปิดไฟล์แนบหรือลิงค์ใด ๆ ที่มากับ อีเมลจากบุคคลที่ไม่รูจักตรวจสอบไวรัสใน อีเมลที่ส่งผ่านจากเพื่อนและผู้เกี่ยวข้องทุกครั้งที่ทำได้  เนื่องจาก อีเมลของพวกเขาอาจถูกโจรกรรมโดย Hacker แม้จะไม่มีความผิดปกติ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนโปรดระลึกเสมอว่า Hacker สามารถส่ง อีเมลโดยแสดงให้เชื่อว่ามาจาก อีเมลเว็บไซต์ หรือแผนกบริการของเกมที่คุณลงทะเบียน พวกเขาจะสร้างเรื่องที่น่าเชื่อถือในการขอข้อมูลส่วนตัว  ยกตัวอย่างเช่น ในอีเมลระบุว่าอีเมลอยู่ในระหว่างการถูกตรวจสอบเกี่ยวกับ อีเมลขยะ (Spam) และจะร้องขอรหัสผ่านอีเมล  เพื่อทำการ ยืนยันว่าไม่ใช่ Spam” มิฉะนั้นพวกเขาจะ “Block บัญชีอีเมลของจงอย่าเชื่ออีเมลที่มีข้อความทำนองนี้เด็ดขาด  เนื่องจากทีมงานของเว็บไซต์ หรือแผนกวิชาบริการต่าง ๆ จะไม่ถามเกี่ยวกับรหัสของ มีเพียงแฮคเกอร์เท่านั้นที่จะทำ
3.พึงระวังเมื่อจะติดตั้งโปรแกรมใหม่บนคอมพิวเตอร์
ใช้แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการจากผู้พัฒนา  เมื่อต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมใดๆ เนื่องจากโปรแกรมที่มีการแบ่งปันบนเว็บ Torrents หรือแหล่งอื่น บ่อยครั้งมักจะมีโปรแกรมอันตรายแผงมา เพื่อโจรกรรมข้อมูล หรือขโมยรหัสผ่าน ควรตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมาด้วยโปรแกรม Antivirus ทุกคั้งก่อนทำการติดตั้ง
4.สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง
รหัสผ่านอีเมลควรจะตั้งให้ยากต่อการโจรกรรม  โดยกำหนดให้มีอย่างน้อย 8 ตัว  ประกอบด้วยทั้งตัวเลข และกลุ่มที่เป็นตัวอักษรที่มีความซับซ้อน ยากต่อการจำ เพื่อความปลอดภัยจากการถอดรหัสโดยผู้ประสงค์ร้าย
5.อีเมลไม่พึงประสงค์
อีเมลที่ถูกส่งเข้ามาในกล่องจดหมาย  หากเป็นอีเมลโฆษณาเพื่อการขายสินค้าหรือบริการบางประเภท  Microsoft Outlook  จะช่วยบรรเทาปัญหาอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ด้วยตัวกรองอีเมลขยะซึ่งจะประเมินข้อความรับเข้าโดยอัตโนมัติแล้วส่งข้อความที่พิจารณาว่าเป็นอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ไปยังโฟลเดอร์  อีเมลขยะ


ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ,ARIT ,  ARIP  ,  ส.ค.พ.ท.  





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น